Mezzaluna เมซซาลูน่า

Mezzaluna เมซซาลูน่า คู่มือมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯที่จัดทำในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 นั้น มีร้านที่ได้รางวัลเกียรติยศระดับ 2 ดาวมิชลิน อยู่ 3 รายด้วยกัน ซึ่งในปีแรกนี้ยังไม่มีใครได้ถึงระดับสูงสุด 3 ดาวมิชลิน ถึงอย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ที่ผมไปชิมร้านติดดาวมิชลินมากมายหลายประเทศ ร้านที่ได้ 2 ดาวมิชลิน อันหมายถึง ร้านอาหารยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม ก็ถือเป็นสุดยอดแห่งความอร่อยจนฝันถึง อยากกลับไปชิมซ้ำอีกตลอดเวลา

และห้องอาหาร 2 ดาวมิชลินที่ผมเพิ่งไปชิมมานั้น ผมเกิดความประทับใจมากที่สุดในรอบปีเลยทีเดียวก็ว่าได้ รู้สึกตกหลุมรักในหน้าตาและรสชาติของอาหารอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ร้านชั้นดีไฟน์ไดน์นิ่งแห่งนี้ มีชื่อว่า เมซซาลูน่า (Mezzaluna) อยู่บน ชั้น 65 ของโรงแรมเลอบัว แอทสเตททาวเวอร์ ตึกระฟ้าสุดถนนสีลม ห้องอาหารรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวติดกระจกใสสูงโปร่ง ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันงดงามในยามค่ำคืน ที่นี่จะเปิดบริการเฉพาะมื้อค่ำเท่านั้น

เชฟผู้สร้างตำนานมิชลินให้กับห้องอาหารแห่งนี้คือ เชฟริวกิ คาวาซากิ (Ryuki Kawasaki) ผู้ซึ่งมาร่วมงานที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ.2558 เชฟริวกิมีประสบการณ์ในห้องอาหารมิชลิน 3 ดาวของเชฟชื่อดังก้องโลกมาหลายแห่ง ซึ่งเชฟริวกิจะโชว์ฝีมือในการปรุงอาหารให้เห็นกันในครัวเปิดเลยทีเดียว

เมนูของเมซซาลูน่าไม่จำเป็นต้องเลือกมาก เพราะเชฟริวกิเลือกสรรมาให้แล้วเป็น มื้อค่ำอาหารยุโรปแนวอินโนเวทีฟหน้าตาทันสมัยจำนวน 7 คอร์ส ที่เรียกว่า เมนูสำหรับชิม หรือ Tasting Menu ซึ่งจะ เปลี่ยนไปทุก 3 เดือน ในสนนราคา 6,500 บาท++ (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ดังนั้น เมนูฤดูร้อนที่แนะนำในครั้งนี้มีถึงเพียงปลายเดือนสิงหาคมเท่านั้น และจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดในเดือนกันยายน

Mezzaluna เมซซาลูน่า วัตถุดิบชั้นดีตามฤดูกาลจากทั่วโลก

Mezzaluna เมซซาลูน่า เชฟริวกิพิถีพิถันในการสรรหาวัตถุดิบชั้นดีตามฤดูกาลจากทั่วโลก ซึ่งต้องบอกว่าเขาสุดยอดในการคัดสรรจริงๆ บางอย่างต้องเป็นของพิเศษที่มีในเขตนั้นประเทศนั้น และส่งให้เมซซาลูน่าโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีแนวคิดกับเทคนิคแพรวพราวในการปรุงอาหาร ทำได้อย่างลงตัวทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส หน้าตาออกมาทันสมัยสวยงามน่าชิม

ของกินเล่นเรียกน้ำย่อยทำจากมะเขือเทศ 4 คำ แค่ของกินเล่นเรียกน้ำย่อย 4 คำ ก็สุดยอดมีหลากหลายรสสัมผัส มีทั้งมะเขือเทศยัดไส้ปูขนเคกานิเสิร์ฟมาในช้อน ราตาตุยหรือสตูผักเคี่ยวทำเป็นทาร์ตคำเล็กๆ โครเก็ตต์ปลาซาร์ดีนรมควันกับซอสมะเขือเทศรสจัด และซุปเย็นสีเหลืองหรือ Gazpacho มีแฮมอิเบริโก้กรอบๆ ด้วย

ปลาชิมะอาจิ-กับเยลลี่ส้มยูซุและไอศกรีมโยเกิร์ตส้มยูซุ ต่อกันด้วยคอร์สแรกคือ ปลาชิมะอาจิ (Shima-Aji) เนื้อเด้งกรอบหมัก ด้วยผลไม้ซิตรัสรสเปรี้ยว มีลูกเล่นมากมาย เช่น เยลลี่ส้มยูซุและไอศกรีมโยเกิร์ตส้มยูซุ กินแล้วสดชื่นมาก โรยด้วยไข่ปลาโกลเด้นเทราต์ พอกัดแล้วจะระเบิดในปากอีกด้วย

หอยสังข์ญี่ปุ่นหรือซาซาเอะ คอร์สที่สอง มีให้เลือก 2 อย่าง ผมได้ชิมสุดยอด หอยสังข์ญี่ปุ่นหรือซาซาเอะ (Sazae) เชฟริวกิได้แรงบันดาลใจจากหอยทากแห่งเบอร์กันดี หอยนุ่มสดปรุงด้วยเนยกระเทียมสมุนไพรหอมๆ เสิร์ฟมาในเปลือกหอยสวยงามมาก เวลากินต้องตักชิมส่วนผสมให้ครบจากล่างขึ้นบน เช่น มีทั้งโฟมกระเทียมหอมหวานกับขนมปังกูร์ตองกรอบๆ และเห็ดปารีส รสสัมผัสเหมือนซุปครีมข้นหลากหลายรสชาติ พอกินเสร็จยังรู้สึกไม่หายอยากเลย

ฟัวกราส์จี่ในกระทะปรุงด้วยเครื่องเทศ-5-อย่าง ส่วนอีกอย่างให้เลือกนั้นคือ ฟัวกราส์หรือตับห่านจี่ในกระทะปรุงด้วยเครื่องเทศ 5 อย่าง เช่นพริกไทยเสฉวนและอบเชย มีองค์ประกอบอื่นๆ มากมาย เช่น สาหร่ายคอมบุดอง ขิงกงฟี น้ำซอสเป็นเกรวี่เป็ดกับเห็ดซอเรลกับขิง หอมเข้มข้นตลบอบอวลทั้งปากในคำเดียว

บริตตานี่บลูล็อบสเตอร์-แรงบันดาลใจมาจากข้าวผัดสเปนหรือปาเอย่า

คอร์สที่สามคือ บริตตานี่บลูล็อบสเตอร์ จากแอตแลนติก ฝรั่งเศส แรงบันดาลใจมาจาก ข้าวผัดสเปนหรือปาเอย่า (Paellas) มีทั้งไส้กรอกโชริโซ่รสจัด ซอสพริกหยวกสีแดงกับล็อบสเตอร์บิสค์ และข้าวพองสีดำ

ปลาอายุตุ๋นในน้ำมันมะกอกกับไทม์และกระเทียม แล้วจี่จนหนังกรอบ

คอร์สที่สี่ มีให้เลือก อย่างแรกคือ ปลาอายุ (Ayu) หรือ Sweet Fish ตัวเล็กๆ เนื้อหวานๆ ปลาจากลำธารบนภูเขาในญี่ปุ่น ตุ๋นหรือกงฟีในน้ำมันมะกอกกับไทม์และกระเทียม แล้วจี่จนหนังกรอบ แกล้มด้วยเมลอนกับแตง อยากให้เลือกจานนี้เพราะสุดยอดมากครับ

ปลาฮาโมะเทมปุระ และทำเป็นมูสปลายัดไส้ดอกซุคคินี่ อีกอย่างให้เลือกคือ ปลาฮาโมะ (Hamo) ปลาทะเลฤดูร้อนจากญี่ปุ่น ทำ 2 แบบทั้งทอดแบบ เทมปุระ และทำเป็น มูสปลายัดไส้ดอกซุคคินี่

ไก่เลี้ยงปล่อยจากที่ราบสูงดงเบอะยัดไส้ด้วยมูสไก่ จากนั้น คอร์สที่ห้า เป็นไก่เลี้ยงปล่อยจากที่ราบสูงดงเบอะ (Dombes) ของฝรั่งเศส เนื้อนุ่มแน่นและมีรสชาติ ยัดไส้ด้วยมูสไก่อีกที มีเห็ดชองเทอเรสและถั่วเอดามาเมะด้วย

เนื้อหมูจากลุ่มแม่น้ำลัวร์-เคลือบด้วยฮัตโชะมิโซะ คอร์สที่ 6 คนรักเนื้อห้ามพลาดเลย เป็น เนื้อมูราคามิ (Murakami) จากจังหวัดนิอิกาตะ (Niigata) บ้านเกิดของเชฟริวกิ เกรดสูงสุด A 5 นุ่มหอมมันชุ่มฉ่ำ ย่างถ่านบินโช (Bincho) เคลือบด้วยชาร์โคลสีดำ กินกับมันฝรั่งฟองดองท์ ถ้าไม่กินเนื้อ ก็มี เนื้อหมูจากลุ่มแม่น้ำลัวร์ เคลือบด้วยฮัตโชะมิโซะ (Hatcho Miso) ที่หมักนานเป็นพิเศษ

ไอศกรีมรสข้าวโพดหวานโรยด้วยผงชีสนมแพะ

สับปะรดภูเก็ต 3-สไตล์

คั่นรายการล้างปากด้วยจานชีสคือ ไอศกรีมรสข้าวโพดหวานโรยด้วยผงชีสนมแพะ เท่านี้ยังไม่พอ ยังต่อด้วย ไอศกรีมมะนาวกับชิโซะคู่กับแอปเปิลเขียวสดๆ จากนั้น จึงจะปิดท้ายด้วยของหวาน คอร์สที่ 7 อย่างแท้จริง (ถ้านับต้องเป็นจานที่ 9 แล้ว ไม่นับของกินเล่น 4 คำแรก) ซึ่งผมเลือกเป็นเมนูช็อกโกแลต ทำจาก ดาร์กช็อกโกแลต 72% จากแคว้นนอร์มังดี ทำเป็นครีมข้นสไตล์ญี่ปุ่น คู่กับไอศกรีมเชอร์รี่และเชอร์รี่สด และคัสตาร์ดมัทฉะชาเขียว อีกอย่างให้เลือกคือ สับปะรดภูเก็ต 3 สไตล์ มีทั้งสดและแห้ง และอย่างอบ คู่กับเมอร์แรงก์แผ่นกลมและไอศกรีมส้มซึดาจิ (Sudachi) ของญี่ปุ่น

รีวิว ร้านอาหาร  Mezzaluna

Mezzaluna หรือ “พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว” คือ ห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาวที่นำเสนอเมนูอาหารฝรั่งเศสแบบร่วมสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเทศญี่ปุ่นโดยฝีมือของเชฟ Ryuki Kawasaki ที่ผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารสุดสร้างสรรค์ของฝรั่งเศสเข้ากับความพิถีพิถันและวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาลจากประเทศญี่ปุ่นที่นำเสนอออกมาในรูปแบบ Chef’s Tasting Menu (6,500++ THB) ทั้งหมด 7 คอร์สที่ผันแปรไปทุกๆสามเดือน ภายใต้บรรยากาศสุดโรแมนติกบนชั้น 65 ของโรงแรม lebua at State Tower และการบริการที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้าย

ความโดดเด่นของ Mezzaluna นั้นคือ “ความลงตัว” ขององค์ประกอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น กรรมวิธีการปรุงอาหารที่แปลกใหม่ การนำเสนออาหารที่สวยงาม การบริการอย่างดีเยี่ยมและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสุดตระการตาที่ทำให้การรับประทานอาหารมื้อค่ำที่ร้านอาหารสุดหรูแห่งนี้น่าประทับใจเป็นอย่างมาก เมนูซิกเนเจอร์อย่าง Niigata Murakami Wagyu Beef A5 ของเชฟ Ryuki Kawasaki ก็อร่อยยอดเยี่ยมสมคำร่ำรือมากจริงๆ ถ้ามีโอกาส (และมีเงิน) จะขอกลับไปซ้ำอีกแน่นอน

ข้อมูล

ที่ตั้ง โรงแรมเลอบัว(Le Bua) ชั้น 65 State Tower 1055 ถ.สีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500

โทร 0-2624-9555

เปิดบริการ 18.00-01.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 22.00 น.) อังคาร-อาทิตย์

หยุด วันจันทร์

แนะนำ อาหารยุโรปแนวอินโนเวทีฟหน้าตาทันสมัยจำนวน 7 คอร์ส (เปลี่ยนเมนูทุก 3 เดือน)

บทความน่าสนใจ